รูปร่างและส่วนต่าง ๆ
ตัวเครื่องของ DJI Sperk นั้นจัดว่าเล็กที่สุดเท่าที่ DJI ได้ผลิตขึ้นมา โดยมีน้ำหนักเบาเพียง 300 กรัม ประกอบไปด้วยใบพัดทั้งหมด 4 ตำแหน่งด้วยกัน ซึ่งสามารถพับล็อคไม่ให้บินได้ ส่วนบนมีที่อยู่ของระบบระบายอากาศและช่วยการทรงตัว
ด้านหลังมีช่องเสียบ Micro USB สำหรับชาร์จไฟเท่านั้น และช่องเสียบ Micro USB ส่วนแบตเตอรี่ด้านล่างจะเป็นปุ่มเปิดปิดเครื่องด้วยเช่นกันและสามารถตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ได้
ด้านใต้นั้นมีเซนเซอร์สำหรับจอดและขั้วสีทองรองรับกับอุปกรณ์เสริมสำหรับชาร์จไฟได้ และที่มุมของใบพันทั้ง 4 จะมีไฟสถานะบอก
ประสบการณ์ที่ได้การใช้งานจริง
ฟีเจอร์ของ DJI Spark นั้นค่อนข้างเยอะ ทำให้สามารถถ่ายภาพได้หลากหลายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการปรับเรื่องของค่า ISO, ค่ารูรับแสง, ค่าความสว่าง และสามารถเปิดปิดระบบ บอกตำแหน่งของภาพได้ แต่หน้าจอ Application จะยังคงแสดง GPS ตลอดเวลาเพื่อบอกว่าบินได้หรือไม่ และสามารถถ่ายวีดีโอได้หลากหลายรูปแบบเช่น Quickshot, Dronie, Heilx และสามารถติดตามคนได้เช่นกัน
- ใช้มือจับไปทางซ้ายหรือขวา เพื่อเคลื่อนไปซ้ายหรือขวา
- เลื่อนขึ้นหรือลงเพื่อควบคุมระยะความสูง
- โบกมือใส่เพื่อให้ตัวกล้องนั้นอยู่ระยะไกล เมื่อถือระยะ กล้องจะถ่ายภาพเราเอง ตามการเคลื่อนไหวของ Gesture
- ทำมือรูปกรอบ จะเป็นการสั่งถ่ายภาพได้ โดยที่มองไปที่ไฟของเครื่องจะเป็นสีเขียวกระพริบ 2 ที
- ทำท่าตัว Y โบก มันจะบินกลับมาหาเราและเอามือรองเพื่อหยุดได้
ซึ่งประสบการณ์ในการลองนั้น ถ้าเป็นที่กลางแจ้งและได้เป็นที่วิวดีเหมือนทุ่งนาก็จะทำให้ภาพออกมาที่เรียกได้ว่า สวยและดูดีมาก และขนาดมันเล็กไม่จำเป็นต้องบินสูงก็ได้ภาพดี
แต่มีข้อระวังเช่น ไม่ควรบินในเขตที่กำหนดว่าห้ามบิน, ไม่ควรบินในร่มเพราะเครื่องนั้นควบคุมได้ค่อนข้างไว อาจจะทำให้คนบาดเจ็บได้
และ DJI Spark นั้นจะบินได้ต้องใช้ใบอนุญาตหรือไม่ คำตอบคือ ไม่จำเป็น เพราะขนาดมันเล็กไม่ถึงกิโลกรัม แต่ถ้าอยากให้ถูกต้อง ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
ที่มา...http://hitech.sanook.com/1429545/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น